The little Prince

The little Prince

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บันทึกประสบการณ์crpl knight เด็กกากไปสอบทุนมง ครั้งที่1


                              คำชี้แจง:เปิดเพลงคลอประกอบจะทำให้ท่านอารมณ์ดีขึ้น

 ども !     


เมื่อวันที่ 26 เดือนมิถุนายน 2559 ที่เพิ่งผ่านมา 
เราได้มีโอกาสไปสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นหรือทุนมงมาล่ะ สถานที่สอบจัดที่จุฬาคณะวิศวะ สอห้อง3321

ที่เราไปสอบเป็นทุนปริญญาตรี สายU 1(Social Science and Humanities ) ประมานสายศิลป์นั่นล่ะ ส่วนที่เลือกก้เบอๆมันไปเพราะเราไม่ได้ตั้งใจมาสอบอันนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว    

ตอนแรกไอเราก็คิดว่าจะมาลองสอบ ลองเตรียมตัวไรดูก่อนสอบอันจริง ลองมาดูห้องสอบและสนามสอบ ลองมาดูบรรยากาศก่อนเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะยังไงก็ไม่ได้อยู่แล้ว รู้ตัว5 5 5 5 5 5 5 เห็นของป.ตรีเค้าเรียกกันทุนเทพ 
  

   สรุปแล้วก่อนสอบ เราแทบไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลยจ้า มีเชิงนั่งทำข้อสอบเก่าย้อนหลังของปี2007ดูบ้าง มีเลขที่พอทำได้ เพราะเราเป็นคนที่กากอิ้งโคตรๆ แบบเผลอๆต่ำกว่าเด็กประถมอีกอ่ะ แล้วก็ไม่เคยไปเรียนพิเศษที่ไหนเพราะช่วงแรกๆเราคิดเต็มที่เลยว่าจะไปทางสายวิทย์เลยปล่อยอิ้งไปโลด สุดท้ายต้องมานั่งเสียใจที่หลัง ส่วนญี่ปุ่นเราลงสอบไปงั้น ไม่ได้มีความรู้ไรเลยพอๆกับอิ้ง ก็เลยคาดหวังกับเลขพอควรทีเดียว เพราะไอที่ทำมันง่ายจ้า ก็หลงนึกลำพองใจว่าเห้ยมันต้องทำได้บ้างน่า อย่างน้อยทำอิ้งไม่ได้ก็เอาเลขเข้าสู้สิหว้าา
      

   วันสอบจริงพวกเรานั่งรถทัวร์ที่บขส.ไปลงเอกมัยตอนนั่งรถทัวไปก็คุยกับเพื่อนที่มาด้วยรู้สึกเริ่มหวาดหวั่นกันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้คิดไรมาก

  พอลงรถที่เอกมัยก็ต่อรถไฟฟ้าไปสยามแล้วก็เดินไปจุฬาด้วยแรงขา วนอยู่นานคือหลง เพราะมันใหญ่มากหาไม่เจอออ คือถึงตั้งแต่หกครึ่ง กว่าจะพากันไปถึงคณะเจ็ดครึ่งจ้า
พอถึงพวกเราก็ไปรับบัตรเข้าสอบเพราะส่งไปรมา แล้วก็ขึ้นไปหาห้องสอบ ต้องไปรอหน้าห้องก่อนประมานยี่สิบนาที มีเด็กนร.มากมายมาสอบมีเตรียมอุดมบ้างไรบ้าง ส่วนมากก็คงเป็นรร.ในกรุง คือแบบวินาทีที่เก้าเท้าไปสำผัสบรรยากาศกับณจุดๆนั้นมันแบบ ย้อนมาที่ตัวเรา ว่าเรามาที่นี่ทำไมว่ะ นี่ขนาดแบบไม่ได้หวังกับครั้งนี้เลยสักนิด ยังรู้สึกละอาย คือรู้สึกแย่มาก ตอนที่เราเดินหาที่นั่งเราจะเดินผ่านพวกเด็กที่มาสิบเค้าจะนั้งอยู้ตรงข้างๆทางเดินคือแบบเค้าจริงจังกันมากเว้ยเค้าแบบตั้งใจจริงๆแล้วเค้าเตรียมตัวมามากกว่าเรามาก คือแล้วเรามาทำไรที่นี่แบบตอนนนั้นอยากมุดดินหนีมากไม่อยากสอบแล้ว คือรู้ตัวว่าไม่ได้แน่ๆ ไม่ได้คาดหวังไรด้วย จริงๆเราไม่ได้จะสอบทุนป.นี้เลยด้วยซ้ำ แต่พอไปเจอสถานการณ์ในวันนี้มันทำให้เราคิดว่าต้องเก่งมากกว่านี้และต้องพยายามมากกว่านี้อีกร้อยๆเท่าเราคิดว่านี่คือบทเรียน และคิดว่าดีมากๆที่มาสอบทุนมงในครั้งนี้เพราะถ้าเราไม่มา เราคงไม่รู้สึกตัวคงมัวนอนตีพุง แบะๆไปวันๆอีกแน่.


   วิชาแรกเราสอบอิ้งก่อนเลย ตอนแปดครึ่งคือตอนก่อนเข้าห้องคือมือสั่นหงักๆเนื่องด้วนด๋อยอิ้งมากไม่รุ้ว่าเค้าจะให้เขียนข้อมูลไรเป็นอิ้งไม๊เครียดคือตีตัวไปก่อนไข้55555
  
   เข้าห้องสอบ เอากระเป๋าเข้าได้ก็ไปนั่งโต้ะตัวเองเอาบัตรเบิดไรวางไว้บนโต๊ะ ใช้ดินสอหรือปากกาก็ได้ ก็เริ่มทำเวลามี1ชม.

   เริ่มสอบ เค้าแจกกระดาษคำถาม+คำตอบให้ (กระดาษคำตอบเหมือนในเฉลยของปีอื่นๆ) แรกๆจะเป็นคำศัพท์มั้ง แล้วก็พวกแกรมมา แอเรอร์และรี้ดดิ้ง ทำไม่ได้เลย5555 ทำรีดดิ่งไม่ทันมันมี2เรื่องๆละ5ข้อ ผมกาแหลกเหลว.

   ต่อมาวิชาที่คาดหวังเลขนั่นเอง คราวนี้เริ่มชินแล้วชิลๆไม่ตื่นสนามละ แอร์ก็เปิดพอดีๆไม่เย็นมากไป ก็เริ่มทำข้อสอบเท่านั้นหล่ะหนาวเลย.@##&%$@ไมมันยากวะ ไมที่ซ้อมทำมันง่ายนัก อิข้อย่อยมาเป็นพรืดเลยจ้า คิดไม่ได้หว่ะข้ามๆไปคิดข้ออื่นแต่เสียเวลามากคิดแล้สติดหลายข้อ ซึ่งแนะนำให้ข้ามไปทำข้ออื่นเลย เพราะหลังๆมันจะง่าย.มั่นใจข้อหนึ่งคือสมการดาดๆอ่ะให้แยกใช้สูตร ห่านนนน.อย่างน้อยกรุก็ไม่ได้ศูนย์แล้วสินนะบางข้อก็มโนเองไปบ้างเพราะไม่รู้ศัพท์ อย่างความน่าจะเป็นมีข้อนึง มโนศัพท์จ้า มโนคำตอบด้วย.5 5 5 สุดท้ายทำไม่ทันปล่อยว่างบานเบิกกำลังคิดlogจะออกแล้วหมดเวลา
จบเลยจ้า จบชีวิต วิชาที่คาดหวังบิ้วไปแล้ว

   แต่เคราะกรรมก็ยังไม่หมดไป เราลงสอบยุ่นจ้าาา กล้ามากความรุ้ไม่มีในสมอง ขาดสติตอนเลือกวิชาสินะ ดีที่เพื่อนเราก็ลงสอบด้วย แต่เหมือนเค้าจะเก่งกว่าเรานะคือเราไม่เคยเรียนเลย งูๆปลาๆอ่านได้อย่างเดียวแปลมิออกศัพท์ส่วนมาอิชั้นได้มาแต่จากในเมะ กร๊ากก แบบจะหวังกับสนทนาก็มีศัพท์คันจิยากๆอีก แถมมันแบ่งเป็นสามช่วงเว้ยให้เวลาสองชม.ช่วงแรกจะเป็นแบบเบสิกกลางๆไม่ง่ายนะ555ก้อจะมีฮิรากำกับบนคันจิให้.ได้บ้างไม่ได้บ้างตามบุญตามเกิด

   จะมีแบบกาแล้วก้อมีพีคมากมันให้ช่องว่างๆมาแถมนึงเหมือนจะให้เติมไร ไอเราก็เล็งโจทย์อยู่นาน หืมมมไมอ่ะต้องการอัลไลจากอิชั้นคะ ตัดสินใจอ่านคำชี้แจงที่เป็นภาษาญี่ปุ่นบานเบิก มันบอกอะไรคันจิๆฮิรางานะๆ เรามโนเองจ้า มันคงจะให้เราเปลี่นนคันจิที่มันให้มาเป็นฮิราแล้วเปลี่ยนเป็นคันจิสินะ อ้าว กระปมจะตรัสรุ้ไหมมผมเป็นแค่กบในกะลาที่มีความรู้เท่าหางอึ่งเองนะคับผมจะรู้ม้ายยยย
 ว่าแล้วเราก้อจัดการตามหาคันจิในข้ออื่นๆเผื่อฟลุ่คมี สักข้อเห้ยมันมีนะข้อนึงฮานะอ่ะแต่คือไม่ทราบว่าใช่คำเดียวกันไหมแต่เขียนโลดจ้าสุดท้ายก้อ เว้นว่างซะมาก
 ต่อไปช่วงสองคือแบบ จะยากขึ้นกว่าเดิม ก้อทำไม่ได้เหมือนเดิม ส่วนช่วงสามเป็นแบบแอดวานจ้าไม่มีฮิรากำกับมีฮิราก้อไม่รอดละผมนี้ดิ่งแทบไม่ทันสรุปการทำยุ่นแบบคร่าวๆก้ออ่านๆโจทน์ช้อยลวกๆแล้วก็เลือกคำที่คุ้นๆกับอันที่ชอบ.55555 จบ/
มั่วเสร็จก็รีบออกจากห้องเลยก่อนเวลาประมานครึ่งชม.ได้คือไม่ไหวละ555อยุ่ไปก็รังแต่จะเอ๋อ รีบออกด่วนๆ ไปยืนรอเพื่อนหน้าห้องมีคนมาทักเราเป็นผญ.ถามเราจ้าว่าไอที่ให้ช่องๆมานั่นเค้าให้ทำไร
   เห้ยแม่ง!
   นึกว่ามีแต่เราที่เอ๋อคนเดียว 5555 เราก็บอกตามที่เรามโน เสร็จคนนั้นก็บอกว่าเค้าไม่รู้555 เย้ๆเรามีเพื่อนแล้ว555 เค้าบอกว่าไม่เคยเรียนมาเลย เช่นเดียวกัน5555 เรานึกว่าจะมีแต่เราที่ซีโร่ภาษาญี่ปุ่นคนเดียว

   เสร็จเพื่อนก้อมา เราก้อบอกลาเธอคนนั้น แล้วก้อเดินหาทางออกจากจุฬาอีกประมานครึ่งชม.ได้ ออกเสร็จก็ต่อรถไฟบีทีเอสจากสยามไปเอกมัยเพื่อไปรวมตัวกับเพื่อนอีกกลุ่มนึงที่สอบสายวิทย์ ตบท้ายด้วยหาของกินที่ร้านสุดหรูคู่ใจ เซเว่นนั่นเอง แล้วก็นั่งรถทัวรอบ5โมงครึ่งกลับบ้านนอกเอ้ยกลับจันทบุรี ประสบการครั้งนี้จะเป็นตราบาปฝังใจไปจนกว่าจะสอบได้เลย ถ้ามีคนถามว่าข้อสอบยากมั้ย ยังคิดอยู่กับเพื่อนอยู่เลยว่าจะตอบว่าไรดี เก่งก็คงส่วนนึงแต่เราว่าส่วนมากๆเลยคือฝึกทำข้อสอบแล้วก็ตั้งใจมากๆ ถ้าอังกิดได้เลขก็สบายๆแค่ไปรื้อฝื้นสูตรต่างๆตอนม.4-5มาอ่ะทำได้แน่ๆ อังกิดนี่ไม่รู้นะคือเรากากมากจนไม่สามารถประเมินได้เลยขนาดที่ไม่รู้ว่าข้อสอบมันยากง่ายยังไงอ่ะ55555แต่ก็อ่านทุกข้อนะพยายามเดาข้อที่ดูดีสุดยังไงก็สู้อีกปีนะตัวฉันน สายอาชีพคงไม่เท่านี้แถมคนน้อยกว่าด้วย

โอเค!!
จบการบ่นของข้าพเจ้า ลิงแอนเสื้อลายมะพร้าว คิดถึงซึบารุสัญญาว่าจะขยันแปลบล็อก+ทวีตให้มากกว่านี้เพื่อพัฒนาตนให้ดียิ่งขึ้น...เหนื่อยว่ะ แฮกๆ

Crpl knight ผู้บันทึก
27/06/2559

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แปลเพลง "Somewhere Only We Know"

                                               Le Petit Prince ost.



    

    

   "Somewhere Only We Know"

          song by : lily allen                                                                                                                                               translate by : Crpl knight

        I walked across an empty land                                                                                                                                       ฉันข้ามผ่านดินแดนที่แสนว่างเปล่า
        I knew the pathway like the back of my hand
        เป็นทางเดินที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดี
        I felt the earth beneath my feet
        ฉันรู้สึกได้ถึงพื้นโลกที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า
        Sat by the river and it made me complete
        นั่งลงที่ริมแม่น้ำและพบว่าถูกเติมเต็ม

        Oh simple thing, where have you gone?
        โอ้ ความเรียบง่าย ไปอยู่ที่ไหนมาหนอ?
        I'm getting tired and I need someone to rely on
        ฉันเริ่มเหนื่อยล้าและต้องการเพียงใครสักคนที่ฉันจะเชื่อใจ

         I came across a fallen tree
        ฉันบังเอิญเจอต้นไม้ที่ล้มอยู่
        I felt the branches of it looking at me
        รู้สึกว่ากิ่งก้านของมันกำลังจ้องมองมา
        Is this the place we used to love?
        นี่คือที่ที่พวกเราเคยรักอย่างงั้นหรอ ?
        Is this the place that I've been dreaming of?
        นี่คือที่ที่ฉันเคยเฝ้าฝันถึงใช่มั้ย ?

        Oh simple thing, where have you gone?
        โอ้ ความเรียบง่าย ไปอยู่ที่ไหนมา?
        I'm getting old and I need something to rely on
        ฉันเริ่มแก่ลงเรื่อยๆและต้องการบางสิ่งที่พึ่งพาได้

        And if you have a minute why don't we go
        และถ้าหากคุณพอมีเวลา ทำไมพวกเราถึงไม่ไป..
        Talk about it somewhere only we know?
        พูดคุยกันที่ไหนสักแห่งที่มีเพียงพวกเราที่รู้จักล่ะ?
        This could be the end of everything,
        นั่นอาจจะเป็นฉากจบของทุกๆสิ่ง

        So why don't we go
        ถ้าอย่างนั้น ทำไมพวกเราทั้งสองถึงไม่ไป..
        Somewhere only we know?
        ที่ไหนสักแห่งที่มีเพียงพวกเราที่รู้จัก ?
        Somewhere only we know?
        ที่ไหนสักแห่งที่มีเพียงพวกเราที่รู้จัก ?

         Oh simple thing, where have you gone?
         โอ้ ความเรียบง่าย ไปอยู่ที่ไหนมา ?
         I'm getting old and I need someone to rely on
         ฉันเริ่มแก่ลงเรื่อยๆ และต้องการเพียงใครสักคนที่เชื่อใจได้
         So tell me when you're gonna let me in
         ดังนั้นช่วยบอกกับฉันที หากคุณจะเปิดรับให้ฉันเข้าไป
         I'm getting tired and I need somewhere to begin
         ฉันเริ่มเหนื่อยแล้วล่ะ และต้องการที่สักที่เพื่อเริ้มต้นใหม่

        And if you have a minute why don't we go
        และถ้าหากคุณพอจะมีเวลา ทำไมพวกเราทั้งสองถึงไม่ไป..
        Talk about it somewhere only we know?
        พูดคุยกันที่ไหนสักแห่งที่มีเพียงพวกเราที่รู้จักล่ะ ?
        'Cause this could be the end of everything,
        และนี่ก็คงจะเป็นฉากจบของทุกๆสิ่ง

         So why don't we go
         ถ้าอย่างนั้น ทำไมพวกเราทั้งสองถึงไม่ไป..
         Somewhere only we know?
         ที่ไหนสักแห่งที่มีเพียงพวกเราที่รู้จัก?
         Somewhere only we know?
         ที่ไหนสักแห่งที่มีเพียงพวกเราที่รู้จัก?

         สรุปสำนวนและศัพท์น่ารู้
         1.the back of my hand (หลังมือของฉัน)เป็นสำนวนเปรียบเทียบว่าสิ่งที่เรากำลังกล่าวถึงเป็นสิ่งที่เรารู้จัก                                      เป็นอย่างดีเหมือนอย่างที่เรารู้จักหรือคุ้นเคยกับหลังมือของตัวเองดี
         I knew +........+ like the back of my hand = ฉันรู้จัก.....เป็นอย่างดี
         2.came across (บังเอิญ) ในที่นี้came acrossไม่ได้แปลว่าข้ามมา แต่เป็นสำนวนที่แปลว่า บังเอิญ
          เช่น เวลาเราไปเที่ยวแล้วบังเอิญไปเจอเพื่อน เราจะใช้คำว่า came across 
          3.gonna เป็นรูปย่อของ going to ที่แปลว่า จะ ดังนั้น gonna แปลว่า จะ (ทำบางอย่าง)

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2559

นี่คือบล็อกของ Crpl Knight
มีแปลเพลงบ้าง บ่นบ้าง ตามอารมณ์ค่ะ ;_;

Favorite
 manga | anime |music | writer |butai
Anime
弱虫ペダル |ダイヤのA|HQ  | code geass | and other
Music
arashi | one ok rock |spitz |hata motohiro| and other